Article

09 เมษายน 2025

ชวนรู้จักเกรดเหล็กแต่ละประเภท พร้อมคุณสมบัติและการใช้งาน

รวมเรื่องสำคัญที่ต้องรู้ของเกรดเหล็กแต่ละประเภท ในโลกอุตสาหกรรมการผลิตและงานก่อสร้าง เกรดเหล็กถือเป็นความรู้พื้นฐานสำคัญที่ผู้ประกอบการและวิศวกรจำเป็นต้องทำความเข้าใจ เนื่องจากเหล็กแต่ละเกรดมีคุณสมบัติ ความแข็งแรง และการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกใช้เกรดเหล็กให้เหมาะสมกับงานจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อคุณภาพและความปลอดภัยของชิ้นงาน  บทความนี้ Nippon Steel จะพาคุณไปทำความรู้จักกับเกรดเหล็กหลากหลายประเภท พร้อมอธิบายคุณสมบัติและการประยุกต์ใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้วัสดุได้อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการ ชวนรู้จักเกรดเหล็กในงานแปรรูปโลหะ  เกรดเหล็กในอุตสาหกรรมการแปรรูปโลหะมีหลากหลายประเภท แต่ละเกรดถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยมีการกำหนดมาตรฐานจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น ASTM ของสหรัฐอเมริกา, JIS ของญี่ปุ่น และ EN ของยุโรป ซึ่งแต่ละเกรดเหล็กจะมีส่วนผสมทางเคมี กระบวนการผลิต และคุณสมบัติทางกายภาพที่แตกต่างกัน ทำให้เหมาะกับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้าง งานก่อสร้าง งานผลิตเครื่องจักร หรืองานในอุตสาหกรรมอาหาร1. เกรดเหล็ก A36เกรดเหล็ก A36 เป็นเหล็กโครงสร้างคาร์บอนที่ได้รับความนิยมสูงในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เนื่องจากมีคุณสมบัติด้านความแข็งแรงและความทนทานที่ดีเยี่ยม มีความต้านทานแรงดึงขั้นต่ำที่ 400-550 MPa และจุดคราก 250 MPa ทำให้เหมาะสำหรับงานโครงสร้างทั่วไป เช่น อาคาร สะพาน และงานก่อสร้างขนาดใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมและขึ้นรูปได้ง่าย ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับงานผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม2. เกรดเหล็ก S355เกรดเหล็ก S355 เป็นเหล็กโครงสร้างมาตรฐานยุโรปที่มีความแข็งแรงสูง มีค่าความต้านทานแรงดึงขั้นต่ำที่ 470-630 MPa และจุดคราก 355 MPa เหล็กเกรดนี้มีส่วนผสมของคาร์บอนต่ำ ทำให้เชื่อมต่อได้ง่ายและมีความเหนียว เหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น โครงสร้างอาคารสูง สะพาน และงานก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ต้องรับน้ำหนักมาก นอกจากนี้ยังนิยมใช้ในอุตสาหกรรมต่อเรือและผลิตเครื่องจักรกลหนัก3. เกรดเหล็ก SPCCเกรดเหล็ก SPCC เป็นเหล็กแผ่นรีดเย็นคุณภาพเชิงพาณิชย์ตามมาตรฐานญี่ปุ่น JIS G 3141 มีความเหนียวและความสามารถในการขึ้นรูปที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น งานปั๊มขึ้นรูป งานพับ และงานเชื่อม นิยมใช้ในอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์โลหะ เนื่องจากมีผิวเรียบสวยงามและสามารถเคลือบสีได้ดี4. เกรดเหล็ก HR400เกรดเหล็ก HR400 เป็นเหล็กแผ่นรีดร้อนที่มีความแข็งแรงสูง มีคุณสมบัติด้านความต้านทานแรงดึงและความแข็งที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับงานโครงสร้างที่ต้องการความทนทานสูง เช่น งานก่อสร้างอาคาร สะพาน และโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ยังนิยมใช้ในการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรกลหนักและอุปกรณ์ก่อสร้าง เนื่องจากมีความต้านทานต่อการสึกหรอที่ดี5. เกรดเหล็ก 304เกรดเหล็ก 304 เป็นสเตนเลสสตีลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มออสเตนิติก มีส่วนผสมของโครเมียมประมาณ 18% และนิกเกิล 8% ทำให้มีความต้านทานต่อการกัดกร่อนสูง ไม่เป็นสนิม และทนความร้อนได้ดี เหมาะสำหรับงานในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องครัว และอุปกรณ์ทางการแพทย์ นอกจากนี้ยังนิยมใช้ในงานตกแต่งและงานโครงสร้างที่ต้องการความสวยงามและความทนทาน6. เกรดเหล็ก SGCCเกรดเหล็ก SGCC เป็นเหล็กแผ่นชุบสังกะสีที่มีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อนได้ดี ผลิตโดยกระบวนการชุบร้อน (Hot-dip Galvanizing) ทำให้มีชั้นสังกะสีเคลือบผิวที่แข็งแรงและทนทาน เหมาะสำหรับงานก่อสร้าง งานหลังคา และงานโครงสร้างภายนอกอาคารที่ต้องสัมผัสกับสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ยังนิยมใช้ในการผลิตท่อ รางน้ำ และอุปกรณ์ก่อสร้างต่าง ๆ7. เกรดเหล็ก AR400เกรดเหล็ก AR400 เป็นเหล็กที่ผ่านการชุบแข็งพิเศษเพื่อให้มีความต้านทานการสึกหรอสูง มีค่าความแข็งประมาณ 360-440 HB (Brinell Hardness) ทำให้ทนต่อการขัดถูและแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับงานในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ งานก่อสร้าง และงานที่ต้องเผชิญกับการสึกหรอสูง เช่น รถขุด รถตัก ถังผสมคอนกรีต และอุปกรณ์บดย่อยวัสดุ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการผลิตชิ้นส่วนที่ต้องทนต่อการเสียดสีและการกระแทกในอุตสาหกรรมหนัก8. เกรดเหล็ก P20เกรดเหล็ก P20 เป็นเหล็กแม่พิมพ์พลาสติกที่ผ่านการอบชุบมาแล้ว มีความแข็งประมาณ 24-33 HRC ในสภาพจำหน่าย มีคุณสมบัติด้านความเหนียวที่ดีเยี่ยม สามารถกลึงและขัดผิวให้เงางามได้ง่าย เหมาะสำหรับงานแม่พิมพ์ฉีดพลาสติกที่ต้องการกำลังการผลิตสูง สามารถเชื่อมและซ่อมแซมได้ง่าย มีความทนทานต่อการกัดกร่อนของกรดได้ดี และสามารถรับแรงดึงได้สูงถึง 950-1,100 N/mm² ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการผลิตแม่พิมพ์ขนาดใหญ่และงานที่ต้องการความแม่นยำสูงสรุปบทความเกรดเหล็กการเลือกใช้เกรดเหล็กที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อความสำเร็จของงานในอุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง แต่ละเกรดมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้าง งานแม่พิมพ์ หรืองานที่ต้องการความต้านทานการสึกหรอสูงบริษัท Nippon Steel ในฐานะผู้นำด้านการผลิตเหล็กระดับโลก มีความเชี่ยวชาญในการผลิตเหล็กทุกเกรดที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมให้คำปรึกษาและแนะนำการเลือกใช้เกรดเหล็กที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจคุณ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย เราพร้อมเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งเพื่อความสำเร็จของธุรกิจคุณ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาเรื่องการเลือกใช้เกรดเหล็ก สามารถติดต่อทีมงานของเราได้ตลอดเวลา เราพร้อมให้บริการคุณด้วยความใส่ใจและมืออาชีพ

read more
09 เมษายน 2025

ทำความรู้จักสัญลักษณ์เหล็กต่าง ๆ เรื่องสำคัญที่มือใหม่ควรรู้

สัญลักษณ์เหล็ก เรื่องสำคัญที่ควรรู้ การเลือกใช้เหล็กให้เหมาะสมกับงานก่อสร้างเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเหล็กแต่ละประเภทมีคุณสมบัติแตกต่างกัน หากเลือกใช้ผิดประเภทอาจส่งผลต่อความแข็งแรงของโครงสร้าง การเรียนรู้ สัญลักษณ์เหล็กจึงช่วยให้คุณสามารถเลือกใช้เหล็กได้อย่างถูกต้องตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ทำความรู้จักสัญลักษณ์เหล็กต่าง ๆ คืออะไร สัญลักษณ์เหล็ก เป็นเครื่องหมายที่ระบุบนผลิตภัณฑ์เหล็กเพื่อบ่งบอกประเภท คุณสมบัติ และกระบวนการผลิตที่ผ่านมา ซึ่งมีความสำคัญในการแยกแยะเหล็กแต่ละชนิดที่ผ่านกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน และมีคุณสมบัติเฉพาะที่เหมาะกับงานก่อสร้างประเภทต่าง ๆ ตามมาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรม 1. เหล็กข้ออ้อย เหล็กข้ออ้อย เป็นเหล็กที่มีลักษณะเด่นคือมีครีบนูนรอบเส้น ทำให้ยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดี ผ่านการรีดร้อนเพื่อให้ได้ความแข็งแรงตามต้องการ ที่น่าสนใจคือสัญลักษณ์เหล็กประเภทนี้อาจมีเครื่องหมาย "T" ซึ่งบ่งบอกถึงกระบวนการทำให้เย็นด้วยการฉีดสเปรย์น้ำ ทำให้ผิวแข็งแต่แกนกลางมีความเหนียว 2. เหล็กกล่อง เหล็กกล่อง มีลักษณะเป็นท่อสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่กลวงด้านใน มีมุมฉาก 90 องศา และมีผิวสัมผัสที่เรียบไม่หยาบ สัญลักษณ์เหล็กประเภทนี้จะบ่งบอกขนาดและความหนาซึ่งมีหลากหลายให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของงาน การเข้าใจสัญลักษณ์จะช่วยให้เลือกใช้งานได้ถูกต้อง 3. เหล็กเส้นกลม เหล็กเส้นกลม หรือที่เรียกอีกชื่อว่าเหล็ก RB มีลักษณะเรียบเกลี้ยงและมีหน้าตัดเป็นวงกลม ใช้สำหรับงานโครงสร้างที่ต้องการการยึดเหนี่ยวระหว่างเหล็กกับคอนกรีต สัญลักษณ์เหล็กประเภทนี้มีความคล้ายคลึงกับเหล็กข้ออ้อย แต่มีความแตกต่างที่ต้องสังเกตเพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง 4. เหล็กรีดซ้ำ เหล็กรีดซ้ำ เป็นเหล็กเส้นกลมอีกประเภทที่มีพื้นที่ภาคตัดขวางเป็นรูปวงกลม แต่พื้นผิวอาจไม่เรียบสนิทเท่าเหล็กเส้นกลมทั่วไป ผ่านกระบวนการรีดซ้ำทำให้มีความคงทนแข็งแรงและสามารถรับแรงได้ดี สัญลักษณ์เหล็กประเภทนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้ได้ตรงตามความต้องการของงาน 5. เหล็กกล้าตีเกลียว เหล็กกล้าตีเกลียว หรือลวดเหล็กกล้าตีเกลียว มีลักษณะเด่นคือมีพื้นที่ภาคตัดขวางเป็นรูปเกลียวทรงกลม เกิดจากการนำลวดเหล็กคาร์บอนสูงตั้งแต่ 2 เส้นขึ้นไปมาตีเกลียวเข้าด้วยกัน สัญลักษณ์เหล็กชนิดนี้สามารถสังเกตได้ง่ายจากลักษณะเฉพาะตัวที่เป็นเกลียวประโยชน์ของสัญลักษณ์เหล็กต่าง ๆ การรู้จักสัญลักษณ์เหล็กมีประโยชน์หลายด้าน ได้แก่ - ช่วยให้เลือกใช้เหล็กได้ถูกประเภทตามวัตถุประสงค์การใช้งาน- ป้องกันความเสียหายต่อโครงสร้างจากการใช้เหล็กผิดประเภท เช่น การนำเหล็กข้ออ้อยที่มีสัญลักษณ์ "T" ไปใช้งานกลึง- ทำให้มั่นใจได้ว่าโครงสร้างที่สร้างจะมีความแข็งแรงตาม มาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรม- ช่วยในการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างได้ตรงตามความต้องการใช้งาน- เพิ่มความปลอดภัยในงานก่อสร้าง ลดความเสี่ยงต่อความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิตสรุปบทความสัญลักษณ์เหล็ก  สัญลักษณ์เหล็ก เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างควรใส่ใจ เนื่องจากเหล็กแต่ละประเภทผ่านกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน ส่งผลให้มีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไป ด้วยประสบการณ์กว่า 60 ปีในอุตสาหกรรมเหล็ก นิปปอน สตีล (ประเทศไทย) พร้อมให้บริการผลิตภัณฑ์เหล็กคุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานสากล พร้อมให้คำปรึกษาด้านเทคนิคแก่ลูกค้าทั้งในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้คุณมั่นใจในทุกโครงการ